Past Simple Tense
โครงสร้าง : Subject + Verb 2( ประธาน + กริยาช่องที่ 2 )ตัวอย่าง : 1.He walked to school yesterday. ( เขาเดินมาโรงเรียนเมื่อวานนี้ )2. They played volleyball last week. ( เขาทั้งหลายเล่นวอลเลย์บอลสัปดาห์ที่แล้ว )
เมื่อต้องการแต่งประโยคใน Past Simple Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธ ทำได้ด้วยการใช้ Verb to doช่องที่ 2 คือ did มาช่วย และเติม not ข้างหลัง มีโครงสร้างของประโยคดังนี้โครงสร้าง : Subject + did + not + Verb 1( ประธาน + did + not + กริยาช่องที่ 1 )ตัวอย่าง : 1. He did not ( didn’t ) walk to school yesterday. ( เขาไม่ได้เดินมาโรงเรียนเมื่อวานนี้ )2. They did not play volleyball last week. ( เขาทั้งหลายไม่ได้เล่นวอลเลย์บอลสัปดาห์ที่แล้ว )
ข้อสังเกต : เมื่อนำ did มาใช้ในประโยคแล้วต้องเปลี่ยนกริยาช่องที่ 2 ให้เป็นกริยาช่องที่ 1 ด้วย
เมื่อต้องการแต่งประโยคใน Past Simple Tense ให้มีความหมายเชิงคำถาม ทำได้ด้วยการนำ did มาวางไว้หน้าประโยคและตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างของประโยคดังนี้โครงสร้าง : Did + Subject + Verb 1( Did + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 )ตัวอย่าง : 1. Did he walk to school yesterday ?( เมื่อวานนี้เขาเดินมาโรงเรียนใช่หรือไม่ )- Yes, he did. ( ใช่ เขาเดินมา )- No, he didn’t. ( ไม่เขาไม่ได้เดินมา )2. Did they play volleyball last week ?( เขาทั้งหลายเล่นวอลเลย์บอลสัปดาห์ที่แล้วใช่หรือไม่ )- Yes, they did. ( ใช่ เขาทั้งหลายเล่น )- No, they didn’t . ( ไม่ เขาทั้งหลายไม่ได้เล่น )
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วในอดีต ซึ่งมักจะมีคำ กลุ่มคำ หรืออนุประโยคต่อไปนี้อยู่ในประโยค
คำ กลุ่มคำ อนุประโยค ago last night when he was young once last year when he was five years old yesterday yesterday morning when I lived in Tokyo during the war
เช่น 1. I lived in Chaing mai 3 years ago. ( ฉันอยู่ที่เชียงใหม่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ได้อยู่แล้ว )2. His father died during the war. ( พ่อของเขาตายระหว่างสงคราม )
3. He learned English when he was young. ( เขาเรียนภาษาอังกฤษเมื่อเขาเป็นเด็ก )
1. กริยาที่ลงท้ายด้วย e ให้เติม d ได้เลย เช่นlove - loved = รักmove - move = เคลื่อนhope - hoped = หวัง2. กริยาที่ลงท้าย ด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม ed เช่นcry - cried = ร้องไห้try - tried = พยายามmarry - married = แต่งงานข้อยกเว้น ถ้าหน้า y เป็นสระ ใหเติม ed ได้เลย เช่นplay - played = เล่นstay - stayed = พัก , อาศัยenjoy - enjoyed = สนุกobey - obeyed = เชื่อฟัง3. กริยาที่มีพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียวให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed เช่นplan - planned = วางแผนstop - stopped = หยุดbeg - begged = ขอร้อง4. กริยาที่มี 2 พยางค์ แต่ลงเสียงหนักพยางค์หลัง และพยางค์หลังนั้น มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed เช่นconcur - concurred = ตกลง, เห็นด้วยoccur - occurred = เกิดขึ้นrefer - referred = อ้างถึงpermit - permitted = อนุญาตข้อยกเว้น ถ้าออกเสียงหนักที่พยางค์แรก ไม่ต้องเติมพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ามา เช่นcover - covered = ปกคลุมopen - opened = เปิด5. นอกจากกฏที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เมื่อต้องการให้เป็นช่อง 2 ให้เติม ed ได้เลย เช่นwalk - walked = เดินstart - started = เริ่มworked - worked = ทำงาน